ไรอัน กิ๊กส์ (Ryan Giggs) เจ้าของฉายา "ปีกพ่อมด" จากสโมสรแมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ด วัย 40 ปี
กับเรื่องราวที่น่าสนใจที่แฟนบอลของปีกพ่อมดชาวเวลส์บางคนอาจยังไม่รู้มา
ก่อน
หลังจาก
ที่ เดวิด มอยส์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ดไปไม่ทันไร ทางสโมสรก็แต่งตั้งให้นักเตะที่ขายวิญญาณให้กับทีมอย่าง
ไรอัน กิ๊กส์ ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือชั่วคราวไปจนกระทั่งจบฤดูกาล
แฟนบอลทั่วโลกและสื่อต่าง ๆ ก็พากันจับจ้องหันสปอต์ไลท์มาที่เขาทันที
ทั้งนี้ นอกจากผลพวงจากการที่กิ๊กส์รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน
และผ่านการฝึกอบรมในการเป็นโค้ชมาแล้วนั้น
เหตุผลข้อหนึ่งที่สำคัญคงหนีไม่พ้นที่เขารู้จักรูปแบบการเล่นและเพื่อนร่วม
ทีมหลายคนเป็นอย่างดีนั่นเอง
จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักกับการที่เขาต้องมาสวมบทบาทใหม่นี้
ในขณะที่ยังเป็นผู้เล่นอยู่ด้วย
แต่แม้แฟนบอลหลายคนอาจคุ้นเคยกับชื่อของ ไรอัน กิ๊กส์
ในฐานะเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมานานแล้ว
ทว่าบางทีคุณอาจไม่เคยได้ทราบประวัติส่วนตัวบางเรื่องของเขามาก่อน
และขณะที่เราเฝ้ารอชมผลงานหน้าที่ใหม่ของกิ๊กส์
วันนี้ลองมาดูเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปีกพ่อมดชาวเวลส์คนนี้ก่อนเลยดีกว่าครับ

ก่อนที่กิ๊กส์จะเข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตอนเด็ก ๆ เขาเคยเล่นฟุตบอลให้กับโรงเรียนลูกหนังของสโมสรแมนเชสเตอร์
ซิตี้มาแล้ว

กิ๊กส์เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1990 ซึ่งบังเอิญเป็นวันเกิดครบรอบ 17 ปีของเขาพอดี

ปีกพ่อมดซ้ายธรรมชาติรายนี้ก้าวขึ้นมาในทีมชุดแรกตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม
1991 โดยขณะนั้นลีคฟุตบอลสูงสุดในประเทศอังกฤษยังใช้ชื่อว่า ดิวิชั่น 1
อยู่เลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ ลีค อย่างในปัจจุบัน

กิ๊กส์ เปิดตัวลงสนามครั้งแรกในฐานะตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน เดนิส
เออร์วิน ในนัดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อัดเอฟเวอร์ตันไป 2-0

ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดในเมืองคาร์ดิฟฟ์และมีพ่อแม่เป็นชาวเวลส์
ทว่ากิ๊กส์เคยลงเล่นเป็นกัปตันทีมให้กับทีมชาติอังกฤษชุด U16 มาก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าตัวจะมีสิทธิ์เลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ
แต่ท้ายที่สุดแล้วเขายืนยันที่จะสวมเสื้อทีมชาติเวลส์มากกว่า

ปีแรกที่กิ๊กส์ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เขาได้ลงเล่นทั้งหมด 2 นัด ซัดไป 1 ประตู จนกระทั่งในฤดูกาล 1991-1992
กิ๊กส์กลายมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีม ยิงไปทั้งหมด 4 ประตู
จากการลงเล่นทั้งหมด 38 เกม
ไฮไลท์ฟุตบอลโดยในฤดูกาลดังกล่าวแมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ดจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 ของลีค

เหรียญรางวัลและถ้วยแชมป์แรกของกิ๊กส์เกิดขึ้นในศึกเอฟ เอ คัพ ปี 1992
หลังจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเฉือนเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ไปได้ 1-0
ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนเปิดบอลไปให้กับไบรอัน แม็คแคลร์ ยิงประตูชัยด้วยนั่นเอง

ในปี 1992 นั่นเอง กิ๊กส์ได้รับรางวัล PFA Young Player of the Year ไปครอบครองในฐานะนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี

กิ๊กส์คว้าถ้วยรางวัลพรีเมียร์ ลีคครั้งแรกในชีวิตกับแมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ดเมื่อปี 1993 และกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับรางวัล PFA Young
Player of the Year 2 ครั้ง
livescore

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่อนุญาตให้เขาตอบคำถามใด ๆ กับนักข่าว
จนกระทั่งเขาอายุ 20 ปี กิ๊กส์ได้สัมภาษณ์ครั้งแรกกับ เดส ลีแนม ในรายการ
Match of the Day ในฤดูกาล 1993-1994

ประตูที่เขาทำได้ในนัดพบกับอาร์เซนอล ในศึกเอฟเอคัพฤดูกาล 1998-1999
ซึ่งกิ๊กส์โชว์ลีลากระชากลากเลื้อยผ่านผู้เล่นทีมอาร์เซนอลกว่าครึ่งสนาม
เข้าไปทำประตูชัยให้ทีมถีบปืนใหญ่ตกรอบรายการนี้ไป
ทำให้เขาได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมของฤดูกาลไปครอง

เชื่อไหมว่ากิ๊กส์เคยถูกไล่ออกจากสนามเพียงครั้งเดียวในชีวิต
เมื่อครั้งเล่นให้กับทีมชาติเวลส์นัดปะทะกับทีมชาตินอร์เวย์ เมื่อวันที่ 5
กันยายน 2001 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

เขาได้รับเกียรติจากสโมสรต้นสังกัดให้มีเกมเทสติโมเนี่ยล
ในฐานะที่รับใช้ทีมมามากกว่า 10 ปี
ซึ่งสโมสรที่มาแข่งขันด้วยในนัดดังกล่าวก็คือ สโมสรเซลติก
ทีมชั้นนำจากลีคในประเทศสกอตแลนด์

กิ๊กส์ ได้รับเกียรติให้มีชื่ออยู่ในหอเกียรติยศฟุตบอลอังกฤษ (English
Football Hall of Fame) เมื่อปี 2005
หลังจากที่เขาลงเล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครบ 600 นัด
และถือเป็นนักฟุตบอลคนที่สามที่ได้รับเกียรตินี้
ผลบอลสด 
ในปี 2007 ปีกพ่อมดเท้าซ้ายสั่งได้รายนี้ได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้มียศ
OBE (Order of the British Empire)
เพื่อตอบแทนที่เขาอุทิศตนให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษมาอย่างยาวนาน

ในปี 2009 เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว

ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา กิ๊กส์เซ็นสัญญากับสโมสรแบบปีต่อปี กระทั่งสัญญาณฉบับล่าสุดก็ถือเป็นฉบับที่ 5 เข้าไปแล้ว

ในฐานะนักเตะทีมชาติเวลส์ กิ๊กยังได้รับรางวัลนักฟุตบอลเวลส์ยอดเยี่ยมแห่งปีถึง 2 ครั้ง ได้แก่ ปี 1996 และ 2006

สถิติมีไว้ทำลายสำหรับยอดนักฟุตบอลรายนี้
เพราะเจ้าตัวสามารถทำลายสถิติผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดของ เซอร์บ็อบบี้
ชาร์ลตัน ลงได้เมื่อปี 2008 ในนัดที่แมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ดพบกับเชลซีในศึกยูโรเปี้ยน คัพ ที่กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย
ซึ่งนัดดังกล่าวกิ๊กลงสนามเป็นนัดที่ 759

นอกเหนือจากการที่เขาเป็นผู้เล่นระดับอาชีพที่โลดแล่นอยู่ในสนามให้กับสโมสร
แล้ว กิ๊กส์ยังลงสนามในฐานะนักเตะทีมชาติเวลส์มากถึง 64 นัด

ประตูที่เขาทำได้ในฐานะผู้เล่นทีมสหราชอาณาจักรในนัดที่เจอกับยูเออี
ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลอายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์กีฬา
โอลิมปิก

กิ๊กส์เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ทำประตูในการแข่งขันรายการแชมเปี้ยนส์ ลีกได้ถึง 16 ครั้งที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเข้าร่วมแข่งขัน
ผลบอล 
จนถึงปัจจุบัน กิ๊กส์เป็นผู้เล่นคนเดียวที่สามารถทำประตูได้ทุกฤดูกาลตั้งแต่มีลีคอังกฤษ

ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถคว้าแชมป์ลีกได้มากถึง 13 สมัยเท่ากิ๊กส์เลย

นอกจากนี้ กิ๊กส์ยังเป็นนักฟุตบอลที่ลงสนามมากที่สุดในขณะนี้
โดยเขาลงสนามให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปแล้ว 671 นัด
(สถิติดังกล่าวนับถึงวันที่ 26 มีนาคม 2014)
และสถิติก็ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงประวัติส่วนหนึ่งของยอดนักฟุตบอลระดับโลกรายนี้
ซึ่งจะว่าไปแล้วชื่อของ ไรอัน กิ๊กส์
จะยังคงเป็นที่พูดถึงต่อไปอีกยาวนานแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากที่สุดคนหนึ่ง
หรือบทบาทใหม่อย่างการเป็นโค้ชทีมฟุตบอล
ซึ่งเราคงต้องคอยติดตามและให้กำลังใจนักเตะหมายเลข 11 จากสโมสรปีศาจแดง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วิเคราะห์บอลกันต่อไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น